วานรนิวาส บ้านฉัน

เมื่อประมาณ พ.ศ. 2378 พระสุนทรราชวงษา เจ้าเมืองนครพนมได้เสร็จราชการสงครามแล้ว จึงกลับเมืองยโสธรตามเดิม ท้าวจันโสมซึ่งเป็นเพี้ย (ข้าราชการอีสานโบราณ) บ้านม่วงริมยาม ซึ่งคงจงรักภักดีต่อพระสุนทรราชวงษามาก ได้หาสมัครพรรคพวกได้ประมาณพันคนเศษตามพระสุนทรราชวงษา เจ้าเมืองยโสธร ไปตั้งครอบครัวที่บ้านกุดลิง แขวงเมืองยโสธร โดยคำว่า “กุด” หมายถึงลำน้ำที่ไหลไม่หยุด ส่วน “ลิง” หมายถึงต้นหูลิง (มิใช่มีลิงอยู่มาก)

วัดโพธิ์
วัดโพธิ์

ต่อมาท้าวจันโสมเห็นว่า บ้านกุดลิงคับแคบลำบากในการทำมาหากิน และพระสุนทรราชวงษา (ท้าวฝ่าย) เจ้านาย อาจจะอสัญกรรมจึงหมดความผูกพัน อีกทั้งคิดถึงญาติที่พี่น้องชาวโย้ยเดิมที่บ้านม่วงริมยาม จึงได้อพยพกลับมาใกล้บริเวณเดิมที่บ้านท่าแร่ (ตำบลแร่ อำเภอพังโคนในปัจจุบัน) และคงชื่อ “บ้านกุดลิง” ตามมา แต่แห้งแล้งอีก จึงอพยพมาอยู่บ้านชุมแสงหัวนา (บ้านและตํบลวานรนิวาสในปัจจุบัน) และยังคงใช้ชื่อบ้านกุดลิงเช่นเดิม

เจดีย์ วัดโชคไพศาล หลวงตาแตงอ่อน

จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเมืองสกลทวาปีของชาวย้อเป็น “เมืองสกลนคร” เมื่อปี พ.ศ. 2381 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านกุดลิงของชาวโย้ยให้เป็นเมืองน้องของเมืองสกลนคร โดยมีชื่อคล้องจองกันว่า เมืองวานรนิวาส เมื่อวันจันทร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา ตรีศก จ.ศ. 1223 ตรงกับวันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2404 และทรงตั้งท้าวจันโสมเป็นหลวงประชาราษฎร์รักษา (ฉิม ศรีถาพร) เป็นเจ้าเมืองคนแรก

องค์หลวงพ่อตะเคียนทอง
วัดเศบุญเรือง

ท้าวจันโสมเป็นหลวงประชาราษฎร์รักษา (ฉิม ศรีถาพร) เป็นเจ้าเมืองคนแรก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *